เทคนิคการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้
วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ นางสาวสุพัตรา ทานะกาศ ชื่อเล่น ปุ๋ม
เกิดวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2537
คณะครุศาสตร์ สาขาการประถมศึกษา หมู่ 3
รหัสนักศึกษา 554188086
อาหารที่ชอบ ต้มยำกุ้ง
เครื่องดื่มที่ชอบ น้ำผลไม้
งานอดิเรก อ่านหนังสือ ดูทีวี
บ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี
วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
กิจกรรมการเรียนการสอน คือ วิธีการที่จะนำผู้เรียนไปสู่เป้าหมายหรือจุดประสงค์การเรียนการสอนที่กำหนด การเลือกกิจกรรมการเรียนการสอนที่เหมาะสมสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้จึงเป็นความสามารถและทักษะของครูผู้สอนในการออกแบบการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิผล
ข้อมูลสำคัญที่ครูผู้สอนต้องศึกษาทำความเข้าใจเพื่อเป็นพื้นฐานในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เหมาะสม ประกอบด้วย การวางแผนการสอน องค์ประกอบของการเรียนการสอนและเลือกเทคนิควิธีการสอน เพื่อนำไปสู่การกำหนดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางอย่างมีประสิทธิภาพ
1.การวางแผนการสอน
ในการวางแผนการเรียนการสอน คำถามสำคัญที่ครูผู้สอนต้องหาคำตอบให้ได้ทุกครั้ง คือ
1.1 สอนทำไม หมายถึง จุดประสงค์ของการเรียนการสอนซึ่งในการสอนแต่ละครั้งผู้สอนจะต้องทราบจุดมุ่งหมายของการสอนที่ชัดเจนและแน่นอน เพื่อที่จะได้กำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้จะเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงกิจกรรมการเรียนการสอนรวมทั้งการประเมินผล
1.2 สอนอะไร หมายถึง เนื้อหาสาระที่กำหนดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ เนื้อหาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญควบคู่กับจุดประสงค์การเรียนรู้ ซึ่งทั้งสองส่วนนี้จะต้องมีความสอดคล้องกัน เพื่อบ่งชี้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
1.3 สอนอย่างไร หมายถึง กิจกรรมการเรียนการสอนที่จัดขึ้นเพื่อให้การจัดการเรียนการสอนบรรลุผล การพิจารณาเลือกเทคนิควิธีการสอนนั้นจะต้องคำนึงถึงจุดมุ่งหมาย กระบวนการเรียนการสอนและผลที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน เทคนิควิธีการสอนต่างๆที่ยังมีในปัจจุบันนี้ยังไม่มีผลการวิจัยใดที่บ่งชี้ว่า วิธีใดดีที่สุดเพราะวิธีสอนแต่ละวิธีมีลักษณะเด่นและข้อจำกัดในตัวเอง ซึ่งครูจะต้องพิจารณาเลือกและนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับจุดประสงค์ เนื้อหา รวมทั้งความสามารถความสนใจและวิธีเรียนของผู้เรียนด้วย
1.4 ผลการสอนเป็นอย่างไร หมายถึง การประเมินผลการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้ทราบว่าเกิดการเรียนรู้ตามที่พึงประสงค์หรือไม่ การระเมินผลจึงเป็นการหาประสิทธิผลของการเรียนการสอนว่ามีจุดใดที่ต้องปรับปรุง หรือผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จนสามารถเรียนเรื่องต่อไปได้มากน้อยเพียงใด ผลการประเมินจึงสามารถนำมาอธิบายประสิทธิผลของการเรียนการสอนในภาพรวมและบ่งชี้ว่าควรปรับปรุงในจุดใดบ้าง การเรียนการสอนจึงจะเป็นไปตามความคาดหวังของหลักสูตร
2. องค์ประกอบของการเรียนการสอน
ในการจัดการเรียนการสอน องค์ประกอบสำคัญที่ครูผู้สอนต้องให้ความสนใจ เพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดกิจกรรมการเรียนการสอน ประกอบด้วย
2.1 ผู้เรียน
ผู้เรียนเป็นส่วนสำคัญของการจัดการเรียนการสอน เพราะหากไม่มีผู้เรียนแล้วการเรียนการสอนก็จะไม่เกิดขึ้น ครูผู้สอนจำเป็นต้องรู้พื้นฐานของผู้เรียนที่ตนจะสอนก่อนว่าอย่างไร เมื่อกำหนดจุดมุ่งหมายของการเรียนการสอนก็ต้องคำนึงว่าต้องการให้ผู้เรียนเปลี่ยนแปลงไปในลักษณะใด การคัดเลือกเนื้อหาตลอดจนคัดเลือกกิจกรรมการเรียนการสอน ก็ต้องคำนึงว่าจะจัดอย่างไรจึงจะเหมาะสมกับความสามารถและความสนใจของผู้เรียนเป็นส่วนรวม และขณะเดียวกันจะสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียนด้วย และในขั้นสุดท้าย คือ ผลการสอน ซึ่งผู้สอนจะต้องประเมินผลการเรียนการสอนที่จัดขึ้นว่าได้ทำให้ผู้เรียนเปลี่ยนแปลง มีความรู้ความเข้าใจ เกิดทักษะและมีคุณลักษณะและเจตคติตามจุดประสงค์ที่วางไว้หรือไม่เพียงใด ผู้เรียนจึงมีความเกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอนโดยตลอดตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการเรียนการสอน
การรู้จักผู้เรียนจะเป็นผลดีต่อการเรียนการสอน ดังนี้
1)ช่วยให้กำหนดจุดประสงค์ของการสอนให้มีความเหมาะสมไม่สูงหรือไม่ต่ำจนเกินไป
2)ช่วยให้การกำหนดเนื้อหาสาระเป็นไปอย่างเหมาะสมกับระดับความรู้ความสามารถของผู้เรียน
3)ช่วยในการแบ่งกลุ่มผู้เรียนหรือมอบหมายให้พอเหมาะกับความรู้ความสามารถ และความสนใจของผู้เรียนแต่ละคน
4)ช่วยให้ครูผู้สอนรู้ว่าในระหว่างการเรียนการสอนสมควรจะได้ช่วยเหลือผู้เรียนกลุ่มใดและคนใดเป็นกรณีพิเศษเพื่อจะทำให้สามารถเรียนได้ทันผู้อื่น
ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เรียนซึ่งจะมีผลต่อการเรียนรู้ ที่ครูผู้สอนควรจะนำมาพิจารณาประกอบการจัด
กิจกรรมการเรียนการสอน ประกอบด้วย
2.1.1 ความสามารถทางสติปัญญา(Learning Abilities) ก่อนที่จะกำหนดจุดประสงค์และเนื้อหาในการสอนครูควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มผู้เรียนที่จะสอนโดยอาจศึกษาจากระเบียนสะสม หรือผลการเรียนที่ผ่านมา หรืออาจดูจากคะแนนทดสอบเฉลี่ยรายบุคคลหรือคะแนนมาตรฐานกลางของกลุ่ม ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จในอดีตและชี้วัดถึงอนาคตของผู้เรียนได้ ความรู้ความสามารถของผู้เรียนและสิ่งที่ผู้เรียนคาดหวังจะเรียนรู้ในอนาคต คือ ข้อมูลสำคัญที่ครูผู้สอนศึกษาโดยอาจใช้วิธีการประเมินทางอ้อมเพื่อการวางแผนการสอนที่มีประสิทธิผล
2.1.2 วิธีการเรียน (Styles of Learning) ผู้เรียนแต่ละคนมีความต้องการในการเรียนที่แตกต่างกัน เนื่องจากแต่ละคนมีวิธีการเรียนในหลายๆลักษณะต่างกันไป เช่นเดียวกับครูก็มีวิธีการสอนที่แตกต่างกัน จากการวิจัยพบว่า ผู้เรียนบางคนมีลักษณะชอบแข่งขันมากกว่าผู้อื่น บางคนตอบสนองได้ดีต่อสิ่งที่เสนอข้อมูลตามลำดับขั้นตอน บางคนเรียนได้ดีด้วยวิธีการแก้ปัญหา บางคนชอบฟัง บางคนชอบอ่านหรือดูภาพยนตร์ บางคนชอบเรียนคนเดียวขณะที่บางคนเรียนได้ดีในกลุ่ม
เมื่อผู้เรียนชอบเรียนชอบเรียนด้วยวิธีแตกต่างกัน เขาก็ต้องการเทคนิควิธีการสอนที่แตกต่างกันด้วย ยิ่งครูเข้าใจวิธีการเรียนของผู้เรียนมากเท่าใดยิ่งสามารถวางแผนการจัดการเรียนการสอนที่ใช้วิธีการหลากหลายสนองความต้องการของผู้เรียนในห้องเรียนได้มากขึ้นเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่ครูควรคำนึงอยู่เสมอคือ มีวิธีการเรียนที่หลากหลายในห้องเรียน หากครูไม่สามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลายและสอดคล้องกับความแตกต่างเหล่านั้นแล้ว จะมีผู้เรียนหลายคนที่ถูกกีดกันออกไปจากกระบวนการเรียนการสอนของครู
2.1.3 ประสบการณ์เดิม (Background of Experience) เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ดีและรวดเร็วขึ้น หากผู้เรียนมีความรู้พื้นฐานดีก็เรียนได้เข้าใจรวดเร็วเนื่องจากเห็นความสัมพันธ์ของความรู้เดิมกับความรู้ใหม่
ประสบการณ์และความรู้พื้นฐานเดิมของผู้เรียนจึงเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับครูที่จะใช้ประกอบการ
คัดเลือกประสบการณ์ใหม่แก่ผู้เรียน ตามธรรมชาติของการเรียนรู้ประสบการณ์หรือความรู้ใหม่ที่จัดให้
ผู้เรียนถือว่าเป็น “อุปสรรค” ที่จะให้ผู้เรียนได้แก้ปัญหาเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ หากประสบการณ์ใหม่มีความ
เหมือนหรือซ้ำกับประสบการณ์เดิม ผู้เรียนจะรับทราบได้โดยไม้องใช้ความพยายามหรือใช้ความสามารถ
แต่อย่างใด ซึ่งกรณีนี้ถือว่าการเรียนรู้ไม่เกิดขึ้นเพราะผู้เรียนไม่ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม หรือไม่ให้เกิด
ความรู้ใหม่แต่อย่างใด แต่หากครูผู้สอนนำความรู้หรือประสบการณ์ที่ไม่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกับ
ประสบการณ์เดิมมาเสนอการเรียนรู้ก็ย่อมเกิดขึ้นด้วยความยากลำบาก เกิดความสับสนเพราะผู้เรียนไม่เห็น
ความสัมพันธ์ของความรู้ต่างๆเหล่านั้น
ครูผู้สอนสามารถสามารถทราบข้อมูลความรู้พื้นฐานเดิมของผู้เรียน ได้จากผลการเรียนในชั่วโมง
ก่อนหรือจากการทำการทดสอบก่อนสอน
2.2 จุดประสงค์การเรียนการสอน (Instructional Objective)
จุดประสงค์การเรียนการสอน คือ ความคาดหวังของการจัดกระบวนการเรียนการสอนที่ต้องการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นไปตามเป้าประสงค์ที่กำหนดไว้ ดังนั้น จุดประสงค์การเรียนการสอนจึงมีความชัดเจนกว่าจุดประสงค์ของหลักสูตรและรายวิชาจุดประสงค์จะระบุว่าให้ผู้เรียนบรรลุถึงพฤติกรรมการเรียนรู้ในระดับใด เพื่อที่จะสามารถทำการประเมิน ตรวจสอบได้ว่ากระบวนการจัดการเรียนการสอนนั้น เป็นไปตามเป้าหมายจริงหรือไม่ ถ้าไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จะมีวิธีการตรวจสอบปรับแก้กระบวนการเรียนการสอนอย่างไร
ในการวางแผนการเรียนการสอน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ครูผู้สอนต้องจัดการเรียนการสอนให้ได้ผลตามจุดประสงค์ของหลักสูตร ครูผู้สอนและผู้เรียนต้องเข้าใจตรงกันว่าการเรียนการสอนนั้นจะมุ่งให้เรียนมีคุณลักษณะเช่นใด ดังนั้น จุดประสงค์ที่มีความชัดเจน จึงมีความสำคัญ ครูผู้สอนควรจะศึกษาความมุ่งหมายของหลักสูตรในระดับต่างๆโดยละเอียดซึ่งแบ่งได้ดังนี้
2.2.1 เป้าประสงค์ (Goal) เป็นความมุ่งหมายที่บ่งชี้แนวทางการจัดการศึกษาของส่วนรวมในระดับสูงสุด ซึ่งการเขียนจะระบุข้อความกว้างๆทั่วๆไป
2.2.2 จุดหมายของหลักสูตร (Aim) เป็นการสื่อความเข้าใจระหว่างผู้กำหนดนโยบายทางการศึกษาและผู้สร้างหลักสูตรกับครูผู้สอน จุดหมายของหลักสูตรจะกำหนดไว้อย่างกว้างๆ แต่แคบกว่าความมุ่งหมายของการจัดการศึกษา เพื่อผู้พัฒนาหลักสูตรจะได้บรรลุเนื้อหาวิชาที่สอนให้ได้ผลตามที่ผู้กำหนดนโยบายทางการศึกษาวางไว้ และเพื่อผู้สอนจะได้ทราบเนื้อหาวิชาและกิจกรรมที่กำหนดไว้จะสอนเพื่อไปสู่จุดหมายปลายทางอะไร
2.2.3 จุดประสงค์การเรียนรู้ (Learning Objective) เป็นข้อความที่ระบุจุดมุ่งหมายของการจัดการเรียนการสอนในระดับห้องเรียนของแต่ละรายวิชา โดยแต่ละรายวิชาจะมีจุดประสงค์รายวิชาซึ่งจะเป็นสิ่งชี้แนะบอกทิศทางว่า จะสอนให้ผู้เรียนได้อะไรบ้าง แต่จุดประสงค์รายวิชาอาจไม่ได้ระบุชัดเจนถึงขั้นว่าควรจะกระทำอย่างไร ครูจะต้องวิเคราะห์ เพื่อกำหนดเป็นจุดประสงค์การเรียนรู้ที่มีความเฉพาะเจาะจงและชัดเจนขึ้นสำหรับการจัดการเรียนการสอนและให้สามารถวัดและประเมินผลได้
การเขียนจุดประสงค์การเรียนรู้ จะต้องระบุพฤติกรรมว่าผู้เรียนจะแสดงพฤติกรรมใดจึงจะเป็นที่ยอมรับว่าได้เรียนรู้ตามที่ต้องการบางครั้งจะระบุสถานการณ์ หรือเงื่อนไขที่จะให้ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมนั้นๆและอาจระบุเกณฑ์ที่จะยอมรับไว้ด้วย
ประเภทของจุดประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้สามารถจำแนกได้ 3 ประเภท
1.จุดประสงค์ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Objective) เป็นจุดประสงค์ที่จะบรรยายความรู้ที่ผู้เรียนต้องได้รับ เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดกระทำข้อมูลของผู้เรียน โดยระบุเจาะจงถึงสิ่งที่ผู้เรียนจะสามารถทำได้อันเป็นผลของการเรียนการสอน Benjamin S.Bloom และคณะได้จำแนกพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัยไว้ 6 ระดับ ได้แก่ ความรู้ ความเข้าใจ การประยุกต์ใช้ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการประเมินค่า
2.จุดประสงค์ด้านจิตพิสัย (Affective Objective) เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกและเจตคติของผู้เรียนที่คาดหวังว่าจะเกิดการพัฒนาจากการเรียนการสอน การเขียนจุดประสงค์การเรียนรู้ด้านเจตคติเพื่อให้สามารถสังเกตและวัดได้อย่างชัดเจนทำได้ค่อนข้างยากเพราะพฤติกรรมบางอย่างด้านนี้มีความซับซ้อนคลุมเครือที่แสดงออกมาให้สังเกตและวัดได้อย่างตรงกัน ระดับพฤติกรรมด้านนี้มี 5 ระดับ คือ การรับรู้ การตอบสนอง การเห็นคุณค่า การจัดระเบียบและการแสดงคุณลักษณะ
3.จุดประสงค์ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Objective) เป็นพฤติกรรมที่แสดงถึงทักษะทางกายภาพ ซึ่งมีระดับพฤติกรรม 5 ระดับ คือ ความพร้อม การสังเกต การรับรู้ การตอบสนอง และการปรับตัว
2.3. เนื้อหาสาระ
เนื้อหาสาระเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้การเลือกเนื้อหาสาระที่จะนำมาสอนนั้นจำเป็นต้องคำนึงถึงความยากง่ายให้พอเหมาะกับความสามารถของผู้เรียนและขณะเดียวกันต้องให้มีความต่อเนื่องกับความรู้พื้นฐานเดิมของผู้เรียนด้วย เนื้อหาสาระสามารถจำแนกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้
2.3.1.ข้อเท็จจริง (Fact) คือ เนื้อหาสาระที่เกี่ยวข้องกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เองใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นในอดีตและคงอยู่ในปัจจุบัน โดยไม่ได้เขียนอยู่ในลักษณะแสดงการทำนายและได้มาจากกระบวนการสังเกต (Eggen,1979) ข้อเท็จจริงอาจได้มาจากการสังเกตโดยตรง เช่น การทดลองในห้องปฏิบัติการ หรืออาจได้มาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น จากพจนานุกรม หรือสารานุกรม การเรียนรู้เนื้อหาระดับนี้จะใช้พฤติกรรมระดับความรู้ความทรงจำ
2.3.2.ความคิดรวบยอด (Concept) คือ คำหรือวลีที่ใช้เรียกประเภท หรือหัวข้อของข้อมูลที่จัดกลุ่มแล้เพื่อแสดงลักษณะรวมๆที่เด่นชัดของกลุ่มข้อมูลนั้นๆในการสร้างความคิดรวบยอด ผู้เรียนต้องให้ความสนใจกับความคล้ายคลึงของข้อมูล โดยไม่สนใจความแตกต่าง แล้วจัดสิ่งที่คล้ายคลึงเข้ากลุ่มเดียวกันการเรียนรู้ความคิดรวบยอดนอกจากจะต้องรู้และจำความหมายแล้วยังต้องอาศัยความเข้าใจความคดรวบยอดแต่ละเรื่องด้วย
2.3.3.หลักการหรือเหตุผล (Generaliazation) คือ ประโยคที่สัมพันธ์หรือเชื่อมโยงความคิดรวบยอดสองอย่างเข้าด้วยกัน หลักการจะต้องประกอบด้วยความคิดมากกว่าหนึ่งความคิด และเขียนในลักษณะแสดงการทำนาย (predictive) เช่น เมืองสำคัญๆมักจะตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสายใหญ่ๆ การเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการหรือเหตุผลต้องอาศัยทั้งความรู้ความจำ ความเข้าใจและการให้เหตุผล ประกอบกับการเชื่อมโยงความคิดรวบยอดต่างๆเข้าด้วยกัน จนเป็นหลักการที่ยอมรับกันทั่วไป
3.การเลือกเทคนิควิธีการสอนในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
3.1.เกณฑ์ในการเลือกเทคนิควิธีการสอน สิ่งที่ครูต้องนำมาพิจารณาเพื่อใช้ประกอบการเลือกเทคนิควิธีการสอนที่เหมาะสมประกอบด้วย
3.1.1.ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของครู สิ่งที่ครูทุกคนนำสู่ห้องเรียน คือ จุดเด่น จุดด้อย ประสบการณ์ ความสามารถและความสนใจของครู ซึ่งจะทำให้ห้องเรียนของครูแต่ละคนแตกต่างจากห้องเรียนอื่นๆ ครูมีแนวโน้มที่จะใช้เทคนิควิธีการสอนที่เคยใช้ได้ผลในอดีต หรือวิธีการสอนที่รู้สึกสะดวกที่จะใช้มากที่สุด แต่วิธีที่ใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจะทำให้ครูไม่สามารถพัฒนาความเชี่ยวชาญ และทำให้ผู้เรียนเกิดคือ ครูจำเป็นต้องมีความสามารถในการใช้เทคนิควิธีการสอนหลายๆวิธีมาใช้เพื่อสนองความต้องการของผู้เรียน
3.1.2.ความต้องการ ประสบการณ์ และระดับวุฒิภาวะของผู้เรียน ด้วยประสบการณ์ของครู ครูจะรู้ว่าผู้เรียนบางคนเรียนได้ดีด้วยวิธีการสอนโดยตรง (Direct teaching methods) เช่น การบรรยาย การท่องจำ บางคนเรียนได้ดีในสิ่งแวดล้อมการเรียนแบบร่วมมือ (Cooperative learning) หรือบางคนเรียนได้ผลเมื่อได้เรียนอิสระ บางคนต้องการแค่ระดับความรู้ความเข้าใจ ขณะที่หลายคนต้องการวิเคราะห์และสังเคราะห์ ข้อความรู้เกี่ยวกับผู้เรียนเกี่ยวกับผู้เรียนเหล่านี้จะช่วยให้ครูสามารถเลือกเทคนิควิธีการสอนที่เหมาะสม
3.1.3.เนื้อหาและจุดประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ที่ดีจะบอกถึงสิ่งที่คาดหวังจะให้ผู้เรียนได้รับแต่หากครูไม่เชื่อมโยงจุดประสงค์กับเทคนิควิธีการสอนที่เหมาะสม ครูจะไม่สามารถทำให้การเรียนการสอนบรรลุจุดประสงค์ได้
ครูที่ใช้วิธีสอนเพียงวิธีเดียวจะประสบความสำเร็จกับผู้เรียนประเภทเดียวและกับจุประสงค์การเรียนรู้ระดับเดียวในห้องเรียนแต่ละห้องจะมีผู้เรียนที่มีวิธีการเรียนแตกต่างหลากหลายและต้องการได้รับการพัฒนาทักษะตามจุดประสงค์ในระดับที่แตกต่างกันของจุดประสงค์ หากครูใช้วิธีการสอนแบบบรรยายวิธีเดียว ครูจะสอนได้ผลเฉพาะผู้เรียนที่เรียนได้ดีจากวิธีการจัดการเรียนการสอนทางตรง และครูจะสอนได้ผลเพียงพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัยเท่านั้น ผลก็คือ ผู้เรียนหลายคนเสียประโยชน์ เพราะวิธีการเรียนของพวกเขาไม่สอดคล้องกับวิธีการสอนของครู
จุดประสงค์การเรียนรู้ควรเป็นข้อมูลที่สามารถแนะครูให้สามารถเลือกเทคนิควิธีการสอนที่เหมาะสมที่สุด จุดประสงค์ควรบอกครูได้ว่า กิจกรรมตามจุดประสงค์นั้นเหมาะที่จะนำเทคนิคใดมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการอภิปราย การเรียนแบบร่วมมือ การเรียนรายบุคคล หรือเทคนิควิธีอื่นๆ ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ครูต้องพัฒนาวิธีการสอนหลายๆรูปแบบอย่างหลากหลายเพื่อใช้ในห้องเรียน
3.1.4.บริบทและบรรยากาศในการเรียนการสอน เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อเทคนิควิธีการสอนบริบทและบรรยากาศนี้หมายรวมถึงทั้งในห้องเรียน ในโรงเรียน และในชุมชน ครูต้องมีข้อมูลว่ามีแหล่งวิทยาการใดบ้างที่ครูพอจะใช้ได้ เพราะอาจมีกิจกรรมบางอย่างที่ครูต้องนำมาใช้ แต่ทำไม่ได้เพราะขาดแหล่งวิทยาการที่สำคัญๆหรือครูมีเวลาและสถานที่เหมาะสอเท่าใด เช่น หากครูทราบว่ามีการประชุมครูในช่วงบ่ายก็อาจจะไม่เลือกใช้เทคนิควิธีการและกิจกรรมที่ต้องใช้เวลาเนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลา
3.2. การนำเทคนิคการสอนที่หลากหลายไปใช้ ครูมืออาชีพ จะใช้เทคนิควิธีการสอนที่หลากหลายในการจัดการเรียนการสอน เพื่อสนองความต้องการและวิธีการเรียนของผู้เรียน ในการสอนแต่ละครั้ง อาจใช้วิธีการสอนหลายๆวิธี เช่น อาจใช้ทั้งการนำเสนอภาพเหตุการณ์ การบรรยาย การใช้คำถาม การสาธิตและการทำงานกลุ่มประกอบกัน Borich (1988) ได้เสนอแนะว่าแผนการสอนหนึ่งแผนที่รวมวิธีสอนหลายๆวิธี เช่น การสืบค้น การอภิปราย การถาม-ตอบ การฝึกปฏิบัติโดยมีครูคอยให้คำปรึกษาและการให้ทำงานอย่างเป็นอิสระจะได้รับความนิยมมากกว่าแผนการสอนที่เน้นวิธีการสอนวิธีเดียว
การเรียนการสอนจะเกิดประสิทธิผลมากเมื่อครูใช้เทคนิค สื่อ หรืออุปกรณ์เพื่อสร้างความสนใจในการสอนทุกขั้นตอนไม่ใช่เพียงเฉพาะขั้นนำ สื่อหรือวัสดุอุปกรณ์ที่ช่วยสร้างความสนใจจะช่วยให้ผู้เรียนมั่นใจในเนื้อหาที่จะเรียนตลอดบทเรียน และยังทำหน้าที่เป็นตัวชี้แนะการสอนที่จะกระตุ้นให้ผู้เรียนเห็นความสำคัญของทักษะ พฤติกรรม เจตคติและเนื้อหาที่จะเรียน สื่อหรือวัสดุอุปกรณ์เหล่านี้ไม่จำเป็นต้องหรูหราราคาแพงเพื่อให้ผู้เรียนสนใจคำถาม เกร็ดเรื่องเล่าแง่มุมที่น่าสนใจ วีดีทัศน์ และการสาธิต คือ ทางเลือกที่ครูสามารถใช้ได้
การยกย่องชมเชยถือเป็นเทคนิคการสอนอย่างหนึ่ง ครูควรจะมีวิธีการยกย่องชมเชยหรือให้รางวัลผู้เรียนในหลายๆรูปแบบ ไม่ใช่ใช้คำพูดยกย่องซ้ำๆเหมือนกันทุกครั้ง แต่อาจเป็นท่าทาง การยิ้ม การตบไหล่เบาๆหรือการพยักหน้าก็ถือว่าเป็นการเสริมกำลังใจแก่ผู้เรียนในการยกย่องผู้เรียนว่า “ทำงานได้ดี” ได้เช่นกัน
การใช้ความคิดหรือคำตอบที่ถูกต้องของผู้เรียนเป็นตัวอย่างขณะที่ครูอธิบายเป็นเทคนิคการสอนอีกลักษณะหนึ่งที่นำมาใช้ได้ ผู้เรียนจะรู้สึกภาคภูมิใจ หากเขารู้ว่าครูนำคำตอบหรือความคิดของเขาไปใช้เป็นตัวอย่างผลงานที่ดี ในการใช้เทคนิคลักษณะนี้ครูอาจเริ่มต้นการสอนด้วยการตั้งคำถาม ถามความคิดเห็นของผู้เรียนทุกคน โดยครูเขียนทุกคำตอบลงบนกระดานและไม่มีการตัดสินคุณค่าคำตอบเหล่านั้น การไม่ตัดสินคุณค่าจะก่อให้เกิดคำตอบที่หลากหลายและเสริมกำลังใจที่ไม่ค่อยเต็มใจเรียนให้เข้ามีส่วนร่วม เมื่อใดที่ครูได้คำตอบค่อยอภิปรายและประเมิน
เทคนิคการสอนอีกประการหนึ่งซึ่งสามารถนำมาใช้เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจของผู้เรียน คือ จุดหมายปลายทางของการจัดการเรียนการสอนแต่ละครั้งแล้ว เทคนิควิธีการสอนที่ครูเลือกใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอน คือ วิธีการที่จะบรรลุเป้าหมายปลายทางนั้น
3.3.การพิจารณาความสอดคล้องของเทคนิควิธีการสอนกับจุดประสงค์การเรียนรู้ หากจุดประสงค์การเรียนรู้ คือ จุดหมายปลายทางของการจัดการเรียนการสอนแต่ละครั้งแล้ว เทคนิควิธีการสอนที่ครูเลือกใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอน คือ วิธีการที่จะบรรลุเป้าหมายปลายทางนั้น
เทคนิควิธีการสอนแต่ละอย่างมีประสิทธิผลในการสร้างทักษะ ข้อความรู้ ประสบการณ์ และการมีโอกาสแสดงบทบาทในการเรียนของผู้เรียนแตกต่างกันไป ดังนั้น ในการออกแบบการจัดการเรียนการสอน ครูผู้สอนจะต้องวิเคราะห์จุดประสงค์การเรียนรู้ก่อนว่าต้องการให้ผู้เรียนเกิดพฤติกรรมใดในระดับใด ก่อนที่จะเลือกเทคนิควิธีการที่มีจุดเด่นหรือมีคุณค่าในการสร้างเสริมทักษะข้อความรู้ และพฤติกรรมที่กำหนอนั้นมาใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อให้การจัดการเรียนการสอนบรรลุจุดหมายปลายทางที่ต้องการ
บรรณานุกรม
วัฒนาพร ระงับทุกข์ , การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง , พิมพ์ที่ บริษัท เลิฟแอนด์ลิพเพรส จำกัด , พ.ศ. 2541
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)